การทดสอบเชิงประจักษ์ทางสถิติในการเลือกตัวแปรพยากรณ์สำหรับแบบจำลอง ฟังก์ชันการผลิตข้าวนาปรังของจังหวัดสุพรรณบุรี

The Statistically Empirical Test of Predictive Variable Selection for Production Function of Off-Season Rice Prodution in suphan Buri Province

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อหาปัจจัยและอิทธิพลของแต่ละปัจจัยที่ส่งผลต่อ ฟังก์ชันการผลิตข้าวนาปรังของจังหวัดสุพรรณบุรีโดยใช้สมการถดถอยพหุคูณแบบเส้นตรง 4 วิธี 2) เพื่อเปรียบเทียบและทดสอบความแตกต่างระหว่างปัจจัยและอิทธิพลของแต่ละปัจจัยโดยใช้สมการ ถดถอยพหุคูณแบบเส้นตรง 4 วิธี และ 3) เพื่อหาข้อเสนอแนะวิธีการที่เหมาะสมในการหาปัจจัยและ อิทธิพลของแต่ละปัจจัยที่ส่งผลต่อฟังก์ชั่นการผลิตข้าวนาปรังของจังหวัดสุพรรณบุรี การเก็บรวบรวมข้อมูลปฐมภูมิจากแบบสอบถามข้อมูลผลผลิตและปัจจัยการผลิตข้าวนาปรัง ในจังหวัดสุพรรณบุรีที่เป็นพื้นที่การผลิตข้าวที่สำคัญของประเทศไทยจำนวน 400 ราย การวิเคราะห์ ข้อมูลโดยการวิเคราะห์ฟังก์ชั่นการผลิตด้วยสมการถดถอยพหุคูณแบบเส้นตรงโดยวิธีการประมาณ การสมการถดถอยทางสถิติ 4 วิธีการ คือ 1) การทดสอบโดยการเลือกตัวแปรพยากรณ์โดยวิธีการเพิ่ม ตัวแปร (Forward Selection) 2) การทดสอบโดยการเลือกตัวแปรพยากรณ์โดยวิธีการลดตัวแปร (Backward Elimination) 3)การเลือกตัวแปรพยากรณ์โดยวิธีการเพิ่มตัวแปรแบบขั้นตอน (Stepwise Regression) และ 4) การทดสอบโดยการเลือกตัวแปรพยากรณ์โดยวิธีการนำตัวแปรเข้าทั้งหมด (Enter Regression) ค่าสถิติ คือ t-test, F-test, และค่าสัมประสิทธิ์การตัดสินใจ (The Coefficient of Determination: R2) ผลการวิจัยพบว่า 1) การประมาณการฟังก์ชันการผลิตด้วยวิธีการเลือกตัวแปรพยากรณ์ด้วย วิธีการทางสถิติทั้ง 4 ให้ผลการคัดเลือกตัวแปรพยากรณ์ที่เหมือนกันทุกประการ 2) ค่าประมาณการของพารามิเตอร์จากตัวแปรพยากรณ์ในฟังก์ชันการผลิตด้วยวิธีการเลือกตัวแปรพยากรณ์ทั้ง 3 วิธี การแรกให้ค่าสัมประสิทธิ์ของตัวแปรพยากรณ์เท่ากันทุกประการ ยกเว้นวิธีการคัดเลือกตัวแปร พยากรณ์โดยการเลือกตัวแปรพยากรณ์โดยวิธีการนำตัวแปรเข้าทั้งหมด (Enter Regression) นั้นค่า ประมาณการของพารามิเตอร์จากตัวแปรพยากรณ์ในฟังก์ชันการผลิตแตกต่างจาก 3 วิธีการแรกเพียง เล็กน้อย 3) ผลการทดสอบค่าสถิติในการประมาณการฟังก์ชันการผลิตด้วยค่า t-test, F-test ทั้ง 4 วิธี การให้ค่าประมาณการพารามิเตอร์โดยมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับความเชื่อมั่น 95 เปอร์เซ็นต์ และ ค่าสัมประสิทธิ์การตัดสินใจ (The Coefficient of Determination: R2) ที่มากกว่า .95